Zoom ยอมรับว่าปิดแอคเคาท์ของ Activist ที่เกี่ยวข้องกับจตุรัสเทียนอันเหมินตามคำขอของจีนจริง !

ทางบริษัท Zoom ออกมายอมรับว่าได้ปิดแอคเคาท์ของ Activist (นักเคลื่อนไหวทางสังคม) ลงตามคำขอของรัฐบาลจีนจริง เนื่องจากแอคเคาท์เหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้ออกมาพูดถึงการรำลึกถึงเหตุการณ์ของ จตุรัสเทียนอันเหมิน4 มิถุนายนปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532)

โดยแอคเคาท์ที่ Zoom สั่งปิดไปนี้เป็นแอคเคาท์ของZhou Fengsuoที่เป็นหนึ่งในแกนนำนักศึกษาในเหตุการณ์จตุรัสเทียนอันเหมิน และเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไร Humaniarian China หรือองค์กรพิทักษ์สิทธิส่วนบุคคลของประชาชนจีนที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยเขาได้จัดงานรำลึกเหตุการณ์จตุรัสเทียนอันเหมินในวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้ส่งคำเชิญไปให้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงทั้งแม่ของนักศึกษาที่ถูกฆ่าในเหตุการณ์ดังกล่าว, องค์กรที่ให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้ในฮ่องกง รวมทั้งบุคคลอื่นๆ ที่สนใจ (มีผู้เข้าร่วมประชุมราว 250 คนและมีผู้รับชมผ่าน Live อีกราว 4000 คน โดยบางส่วนรับชมจากประเทศจีน) และหลังจากนั้นอีกสัปดาห์หนึ่ง Zhou ก็พบว่าบัญชีของเขาถูกระงับการเข้าใช้งาน

ส่วนอีก 2 แอคเคาท์ที่ Zoom ปิดไปนั้นเป็นแอคเคาท์ของ Lee Cheuk-Yan อดีตนักการเมืองของฮ่องกงและนักเคลื่อนไหวทางสังคมด้านประชาธิปไตย และในส่วนของเหตุผลที่โดนปิดแอคเคาท์ไปนี้ยังไม่มีการระบุแน่ชัด แต่ก็คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นเพราะการต่อต้านรัฐบาลจีน และแอคเคาท์ของ Wang Dan ที่เป็นหนึ่งในแกนนำนักศึกษาเองก็ถูกระงับการใช้งานด้วยเช่นกัน

สำหรับการตัดสินใจแบนแอคเคาท์ต่างๆ ในครั้งนี้ ทาง Zoom ได้ออกมาอธิบายว่าเป็นเพราะขณะนี้แพลทฟอร์มของ Zoom ยังไม่สามารถปิดกั้นการเข้าร่วมประชุมหรือรับชมการประชุมจากประเทศใดประเทศหนึ่งอย่างเฉพาะเจาะจงได้ จึงตัดสินใจ บล็อคแอคเคาท์ดังกล่าวเป็นการชั่วคราว และได้ระบุว่าขณะนี้กำลังเร่งพัฒนาการจำกัดการเข้าถึงการประชุมต่างๆ ใน Zoom ของผู้ใช้ต่อไป

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเหตุการณ์นี้คือการที่รัฐบาลจีนมีอำนาจสั่งการในการปิดแอคเคาท์ของผู้ใช้งานใน Zoom ได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าทางบริษัทจะออกมากล่าวว่า “คาดหวังว่าวันหนึ่งรัฐบาลที่สร้างกำแพงเพื่อป้องกันประชาชนจากการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆ จะทราบว่าการกระทำนี้เป็นการปิดกั้นความสนใจและเมินเฉยต่อสิทธิมนุษยชนของคนในประเทศ” แต่ผู้ใช้คนอื่นๆ ก็ยังรู้สึกว่า บริการของ Zoom นั้นเริ่มที่จะไม่น่าใช้งาน เพราะทางบริษัทโอนอ่อนตามคำสั่งของจีนง่ายจนเกินไป อีกทั้งยังมีข่าวเรื่องการรั่วไหลของข้อมูลออกมาอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย

ที่มา :techcrunch.com,blog.zoom.us,www.axios.com,www.bbc.com

Cr.https://news.thaiware.com/18753.html